วัยไหนเหมาะกับการเกษียณมากที่สุด

เอาจริงๆแอดมินเองอยากเกษียณเป็นอย่างมากแต่พอดีสถานะภาพทางการเงินยังห้ามมิให้แอดมินเกษียณอยู่  มานั่งคิดๆดูว่า เราควรจะเกษียณอายุจากการทำงาน หรือ เลิกทำงานเมื่ออายุเท่าไรดี บางคนเป็นข้าราชการ ก็มีกำหนดอยู่แล้วที่ 60 ปีอาจะมีต่ออายุไปบ้างก็ไม่เกิน 5 ปี ขณะที่พนักงานเอกชนก็มีช่วงอายุเกษียณไล่เรี่ยกัน มากที่สุดก็ไม่น่าจะเกิน 65 ปี บางทีก็เริ่มเปิดรับคนเกษียณเข้าทำงานอีกครั้ง แต่ปัจจุบันดูเหมือนคนทำงาน คิดเรื่องเกษียณก่อนกำหนดกันมากขึ้น เพราะรู้สึกเหนื่อยกับการทำงานที่เป็นอยู่ในปัจจุบันและอยากจะออกไปทำอะไรเป็นของตนเอง ดังนั้นเรามาดูกันว่าเกษียณอายุในวัยไหน จะต้องเตรียมพร้อมอะไรบ้าง เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี
เกษียณตอนอายุ 50
ถ้าคุณต้องการเกษียณตอนอายุ 50 ปีหมายความว่าคุณต้องมีเงินออมไม่น้อยกว่า 10 ล้านหรือมีมรดกที่สามารถสร้างรายได้ให้คุณได้ตลอดช่วงชีวิตที่เหลืออยู่อย่างอพาร์ทเม้นท์ให้เช่า หรือ หอพัก โดยที่คุณไม่ต้องเอาเงินออมของตนเองไปลงทุนอะไร คอยเก็บเกี่ยวแต่ดอกผลอย่างเดียวเพราะยามที่คุณเกษียณในวัยนี้นั่นหมายความว่าคุณต้องคำนวนเงินเฟ้อ และ ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลตนเอง ที่จะต้องเพิ่มสูงขึ้นทุกปี เมื่อคิดจะเกษียณก่อนกำหนดในวัยนี้ นอกจากเงินออม แล้ว ประกันสุขภาพ ก็เป็นเรื่องที่ต้องรีบจัดการให้เรียบร้อย
เรื่องต่อมาสำหรับคนที่คิดจะเกษียณก่อนกำหนดคือลดค่าใช้จ่ายในแต่ละวันของตนเอง รวมไปถึง ภาระหนี้สินเพราะการเกษียณก่อนกำหนด หมายถึงการดำรงชีวิตอยู่ต่อไป อย่างน้อยอีก 15-20 ปีหรืออาจมากกว่านั้น ถ้ายังมีภาระค่าใช้จ่ายที่ต้องรับผิดชอบบ้าน รถยังผ่อนอยู่ก็ขอให้เลิกคิดเรื่องเกษียณก่อนกำหนดไปได้เลย แม้บางคนจะแย้งว่า ลาออกแล้วได้เงินก้อน ก็ต้องคิดต่อด้วยว่า เงินก้อนที่ได้พอใช้หนี้หมดแล้วจะเหลือเท่าไร และจะอยู่อย่างไรให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีในช่วงเวลาที่เหลืออยู่
แต่ถ้าคุณมีเงินออมไม่เยอะมาก และไม่ได้มีมรดกหรือธุรกิจอะไรเป็นรายรับ หรือ ขายเป็นเงินได้ ก็ต้องวางแผนการใช้เงินด้วยการ หันไปใช้ชีวิตที่พอเพียง ทีนี้ก็ต้องถามต่อว่าคุณสามารถมีชีวิตเช่นนั้นได้หรือไม่เพราะอาจหมายถึง ขายบ้านแล้วไปอยู่คอนโดขนาดเล็กอยู่ใกล้ขนส่งสาธารณะ และ สาธารณูปโภค เพราะจะได้ตัดค่าใช้จ่ายเรื่องรถส่วนตัวไป และจะได้เก็บเงินที่ได้จากการขายบ้านเพื่อไว้ใช้เป็นค่ารักษาพยาบาลตนเองในอนาคตได้
เกษียณตอนอายุ 60
เป็นวัยเกษียณอายุที่ถูกใช้กำหนดมาเป็นเวลานานมากแล้ว ทั้งที่ในความเป็นจริงคนอายุ 60 ในปัจจุบันยังมีไฟในการทำงานอยู่มาก บางคนร่างกายยังแข็งแรงดี และ พร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เกษียณอายุในวัย 60 ปี ถ้าเป็นข้าราชการก็จะมีเงินบำนาญให้ใช้ ขณะที่พนักงานเอกชนในวัย 60 ปียังอาจได้ต่ออายุงานออกไปอีก 5-6ปี จากนั้นก็จะออกมาอยู่กับเงินออมส่วนตัวและ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือ RMF และ ประกันสังคมที่ตนเองมีอยู่ ในส่วนข้าราชการนั้นเมื่อเกษียณแล้ว ส่วนใหญ่ก็ยังพอมีคุณภาพชีวิตที่ดีอยู่บ้าง เพราะมีบำนาญและสวัสดิการรักษาพยาบาลที่ได้จากรัฐ แต่พนักงานเอกชนนั้น สิ่งสำคัญนอกเหนือจากเงินออมที่ต้องมีจำนวนเพียงพอเพื่อใช้จ่ายในเวลาที่เหลืออยู่อีกอย่างน้อย 20 ปี คือ เรื่องของสุขภาพ แม้ว่าจะมีประกันสังคมที่จ่ายอย่างต่อเนื่องตลอดอายุการทำงานมาช่วยบ้าง ประกันสุขภาพก็กลายเป็นสิ่งสำคัญ เพราะอย่างน้อยจะได้เดินเข้าโรงพยาบาลด้วยความสบายใจ
เกษียณตอนอายุ 70
ถ้าเทียบกับวิวัฒนาการทางการแพทย์ เกษียณอายุในวัย 70 เป็นเรื่องที่น่าสนใจ เพราะนอกจากคุณจะรู้สึกว่าชีวิตมีคุณค่าเพราะทำงานแม้วัยจะล่วงเลยมาถึง 70 เมื่อหยุดทำงานก็ยังมีแรงเหลือพอที่จะท่องเที่ยวโดยใช้เงินออมที่มีระยะเวลาในการเก็บมากกว่าคนที่เกษียณในวัย 50 ปี หรือ 60 ปี นอกจากนี้ในวัยทำงานนั้นนอกจากประกันสังคมที่ได้รับอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย และ ประกันสุขภาพของบริษัทที่มีอยู่ก็ทำให้คุณไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลมากเท่ากับคนที่เกษียณในวัย 50 หรือ 60 ปี เพียงแต่คุณอาจมีเวลาสนุกน้อยกว่าคนที่เกษียณอายุเร็ว เพราะคนที่เกษียณอายุเร็วอาจหันไปทำในสิ่งที่ชอบจริงๆ มีแรงเดินทางมากกว่า แต่ถ้าคำตอบของชีวิตคุณคือมีความสุขกับการทำงาน เลือกเกษียณในวัย 70 ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจเช่นกัน
เกษียณตอนไหนไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือสุขภาพกายและสุขภาพใจในวัยนั้นๆ อย่าลืมดูแลสุขภาพกันนะคะเราจะได้มีความสุข และ อิสระ กันไปได้นานๆ ไม่ใช่ว่าเกษียณปุ้บส่งเงินสะสมต่อให้ลูกหลานใช้ทันที อันนี้แอดมินล้อเล่นนะคะ J
Cr. http://tonkit360.com/24579/